เหรียญแจกทาน ทานบารมี สมโภช 660 ปี
เหรียญ พระพุทธชินราช หลัง ยันต์อกเลา อันทรงคุณวิเศษ ( ย้อนยุค พ.ศ.2460 -2560 ครบ 100 ปี แห่งการจัดสร้างเหรียญพระพุทธชินราช หลัง อกเลา วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จัดสร้างเอง เป็นครั้งที่ 2 )
ยันต์อกเลา สันทาบนมประตูประดับมุก พระวิหารพระพุทธชินราช สมเด็จพระเจ้าบรมโกศ กรุงศรีอยุธยา มีพระราชศรัทธา สร้างถวายเป็นพุทธบูชา ในปี พ.ศ. 2299. ถือว่า โบราณจารย์ถือกันว่าเป็นพระยันต์ศักดิ์สิทธิ์ คู่กับองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช มากว่า 360 ปี
ยันต์อกเลา มีเกียรติคุณปรากฏในความศักดิ์สิทธิ์ในสมัยรัชกาลที 5 และ ในสงครามอินโดจีน พ.ศ.2484 ทหารพิษณุโลก ไปรบในดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง กับ ฝรั่งเศส จำนวน 3 ผลัด ๆ 800 นาย มีผ้ายันต์อกเลาติดตัว มิได้รับอันตรายแต่ประการใด เดินทางกลับที่ตั้งพิษณุโลก ปลอดภัยทุกนาย ดังปรากฏในเอกสสีรายงานในหอจอหมายเหตุแห่งชาติพิธีมหาพุทธาภิเษกสมโภช 660 ปี เสาร์ 5 มหามงคล 3 วัน ( 30,31 มีนาคม 1 เมษายน 2560 ) พระเกจิอาจารย์ 139 รูป จาก 47 จังหวัด นั่งปรกปลุกเสกตลอดพิธี
วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562
วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
พระพุทธชินราชรุ่นปิดทองปี2547
พระพุทธชินราชรุ่นปิดทองปี2547
ข้อมูลของรุ่น : องค์พระพุทธชินราชที่สร้างด้วยเนื้อโลหะทองสัมฤทธิ์ ลงน้ำรัก ปิดทอง เมื่อเนิ่นนานวันก็มีการชำรุดเกิดขึ้น ซึ่งเป็นหลักของธรรมชาติ เมื่อมีการชำรุด ก็ต้องมีการซ่อมแซมใหม่ถึง 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระเอกาทศรถ ประมาณในพุทธศักราช 2149 ถึง 2151
ครั้งที่ 2 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พุทธศักราช 2444
ครั้งที่ 3 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) เมื่อวันที่ 6 กรกฏาคม 2547 เนื้อแผ่นน้ำรักและทองที่ลอกออกจากองค์พระพุทธชินราช ที่ได้ปฏิสังขรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2444 มีอายุมาถึง ณ วันนี้ (2547) 103 ปี 103 ปีก็ได้ซึมซับรับเอาความศักดิ์สิทธิ์จากองค์พระพุทธชินราชไว้อย่างเต็มเปี่ยม และยังได้รับเอาพลังจิตจากพระ เกจิทั่วประเทศ หลายยุคหลายสมัยที่ได้นั่งอธิษฐานปลุกเสกวัตถุมงคลจนนับครั้งไม่ถ้วน ล้วนเป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นในตัวเองของแผ่นน้ำรัก และทองที่ลอกออกมา พระเทพรัตนกวี เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จึงได้นำแผ่นน้ำรักและทองอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ลอกออกจากองค์พระพุทธชินราช มาบดทำเป็นมวลสารเอก สร้างพระพุทธชินราชจำลองรุ่น " ปิดทอง " ทั้งเนื้อผงและเนื้อ โลหะ ผสมรวมกับเนื้อผงว่าน 200 ชนิด อาทิ ว่านตระกูลกวัก ว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์ ว่านตระกูลเศรษฐี ว่านโกเมน ว่านเครือ สาวหลง ว่านเงินไหลมา ว่านญาณรังษี ว่านถุงเงินถุงทอง ว่านทองไหลมา ว่านธรรมรักษา ว่านพญาหงษ์ทอง ว่านนเรศวร ว่านน้ำเต้าทอง ว่านปัดตลอด ว่านเพชรกลับดำ ว่านเพชนหลีก ว่านมงคลชัย ว่านวาสนาทางลาย ว่านสาลิกาลิ้นทอง ว่านค้ำคูณ ว่านนางคุ้ม ว่านสาวหลง ว่านเหล็กไหล ฯลฯ และผงเหล็กน้ำพี้ ผงกัลปังหาเนื้อแดง-ดำ พระพุทธชินราชจำลองรุ่น " ปิดทอง " จึงเป็นวัตถุมงคลรุ่นประวัติศาสตร์และอมตะของ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร ที่สร้างด้วยเนื้อแผ่นน้ำรักและทองที่ลอกจากองค์พระพุทธชินราชเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว และอีกใน 100 ปี ภายภาคหน้า ยังไม่รู้ว่าจะมีการสร้างเยี่ยงนี้อีกหรือไม่ เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นสิริมงคล 9 วัน 9 คืน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 17-18-19-20 (เว้น 21) 22-23-24-25-26 พฤศจิกายน 2547 (ตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12) ณ วิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง เพื่อสมทบทุนสร้างอาคาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.พิษณุโลก รุ่นปิดทอง พ.ศ.2547 พิธีมหาพุทธาภิเษก พระพุทธชินราชรุ่นปิดทอง วันที่ 17 - 26 พฤศจิกายน ปี 2547 ด้วยความงดงาม ของพุทธศิลป์ และความศักดิ์สิทธิ์ ของพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหารจ.พิษณุโลก การซ่อมพระพุทธชินราช โดยต้องขูดทองที่ติดกับองค์พระออก แล้วนำมาเป็นมวลสาร โดยนำไปบดเป็นผง แล้วนำไปผสมกับดอกไม้และว่านมงคลอีกกว่า 300 ชนิด เพื่อสร้างพระพุทธชินราชรุ่นปิดทอง พ.ศ.2547 จากนั้นได้นำวัตถุมงคลส่วนหนึ่งเข้าพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2547 ส่วนที่เหลือนั้นจะพุทธาภิเษก 9 วัน 9 คืน พิธีมหาพุทธาภิเษกเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นสิริมงคล 9 วัน 9 คืน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 17-18-19-20 (เว้น 21) 22-23-24-25-26พฤศจิกายน 2547 (ตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12) ณ วิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
จุดประสงค์การสร้างนั้น เพื่อนำปัจจัยไป 1. บูรณะปิดทององค์พระพุทธชินราชบูรณะจิตรกรรมฝาผนังในพระวิหาร 2. บูรณะปิดทองพระประธาน (หลวงพ่อโตในพระอุโบสถ) 3. จัดสร้างกำแพงวัดใหม่ 4. จัดสร้างอาคารเรียนของวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช 5. รวมทั้งใช้ในกิจการของวัด เนื่องจากวัดเปิดโรงเรียนสาธิตวิทยาลัยสงฆ์ รับภิกษุสามเณรมาเรียนฟรี ตั้งแต่ ม.1-ม.6 โดยใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาท ซึ่งมีพระถิกษุสามเณรประมาณ 500 รูป โดยทางวัดต้องดูแลรับผิดชอบเรื่องภัตตาหาร อุปกรณ์เครื่องเขียนแบบเรียนทุกอย่าง
พระพุทธชินราช รุ่นปิดทอง พ.ศ.2547 มีทั้งหมด 17 แบบ แบ่งออกเป็น รูปหล่อลอยองค์ ประกอบด้วย
1. เนื้อทองคำ (ใหญ่-เล็ก)
2. เนื้อเงิน(ใหญ่-เล็ก)
3. เนื้อเหล็กน้ำพี้ (ใหญ่-เล็ก)
4. เนื้อสำริด (ใหญ่-เล็ก)
เหรียญหยดน้ำ ประกอบด้วย
1. เนื้อทองคำ
2, เนื้อเงิน
3. เนื้อสามกษัตริย์ขัดเงา
4. เนื้อสามกษัตริย์ด้าน
ในส่วนของเนื้อว่านประกอบด้วย เสมาเนื้อว่าน(ใหญ่) เสมาเนื้อว่าน (หน้าหนุ่ม) เสมาเนื้อว่าน (เล็ก) ชินราชเนื้อว่าน (ใหญ่) และชินราชเนื้อว่าน (เล็ก)
พระพุทธชินราช รุ่นปิดทองนี้ ทางวัดเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างเองทั้งหมด
ประวัติพระพุทธชินราช
พระพุทธชินราชพิษณุโลก
บริการให้เช่าบูชา จัดหา(พระรุ่นเก่า) รับจอง(พระรุ่นใหม่) พระบูชา พระพุทธชินราช จำลอง ทุกรุ่นทุกขนาด และวัตถุมงคลต่างๆจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก และบริการจัดส่งฟรีทั่วไทย โทร 0839574216
พระพุทธชินราช
ข้อมูลทั่วไป
พระพุทธชินราช ประดิษฐานอยู่ที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไท จัดเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทย และได้รับการขนานนามว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในโลกองค์หนึ่ง ถึงขั้นที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงดำริให้ชลอมาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม แต่ทรงรับฟังคำทูลขอร้องของชาวพิษณุโลก ที่ว่าพระพุทธชินราชองค์นี้ เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง จึงทรงตัดสินพระทัยหล่อ พระพุทธชินราช (จำลอง) ขึ้นมาแทน
ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในปีใด แต่มีการสันนิษฐานโดยอ้างอิงตามพงศาวดารเหนือ คาดว่าน่าจะสร้างพร้อมกับพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดา ในรัชสมัย พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) จากนั้นจึงมีการลงรักปิดทององค์พระเป็นครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้มีการบูรณะ ลงรักปิดทองอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 5 และมีการบูรณะครั้งล่าสุดในรัชกาลที่ 9 พระพุทธชินราชนี้เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัย หมวดพระพุทธชินราช ลักษณะขององค์พระเส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย พระขโนงโก่ง พระเนตรประดุจตากวาง พระนาสิกโด่ง ชายผ้าสังฆาฏิแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ นิ้วพระหัตถ์ทั้ง 4 ยาวเสมอกัน อยู่ในลักษณะปางมารวิชัย ด้านซ้ายและขวาขององค์พระมียักษ์ 2 ตน คอยปกปักรักษาองค์พระอยู่ อีกทั้งยังมีพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรเป็นอัครสาวกอยู่ด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีซุ้มเรือนแก้วที่คาดว่าน่าจะสร้างในสมัยอยุธยาลักษณะเป็นรูปตัวเหรา ถือเป็นศิลปะที่สวยงามมากอย่าหนึ่ง พระพุทธชินราชประดิษฐานในวิหารลักษณะเก้าห้อง ซึ่งมีการบูรณปฏิสังขรณ์มาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน ทำให้องค์พระสวยงามบริบูรณ์อย่างในปัจจุบัน และในประวัติศาสตร์ยังพบว่ากษัตริย์ในทุกๆสมัยของไทยให้ความเคารพและศรัทธาต่อองค์พระพุทธชินราชมาอย่างต่อเนื่องทุกๆ พระองค์
พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณกาล จึงมีตำนาน พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. 2409 โดยอาศัยหลักฐานจากพงศาวดารเหนือ แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดียุติได้ ดังนี้ คือ
พระพุทธชินราช สร้างโดยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) กษัตริย์ลำดับที่ 5 แห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งในตำนานพระพุทธชินราชฯ เรียกพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก โดยสร้างพระพุทธรูปพร้อมกัน 3 องค์ เพื่อประดิษฐานในพระวิหารทิศ ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเมื่อพิษณุโลกเมื่อ พ.ศ. 1900 ในตำนานพระพุทธชินราชฯ มีชื่อช่างหล่อพระพุทธชินราชเป็นช่างพราหมณ์ฝีมือดี 5 นาย คือ บาอินท์ 1 บาพรหม 1 บาพิษณุ 1 บาราชสังข์ 1 บาราชกุศล 1
ตำนานกล่าวไว้ว่า พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏกหรือพระมหาธรรมราชา (พญาลิไท) กษัตริย์องค์ที่ 4 ในพระราชวงศ์พระร่วง สมัยกรุงสุโขทัย เป็นผู้สร้างพระพุทธชินราช เมื่อราว พ.ศ. 1900 โปรดให้ช่างสวรรคโลก ช่างเชียงแสน และช่างหริภุญไชย สมทบกับช่างกรุงศรีสัชนาลัย ช่วยกันหล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 3 องค์ ได้แก่ พระศรีศาสดา พระพุทธชินราช และพระพุทธชินสีห์ จวบจนถึงวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีเถาะจุลศักราช 717 ราว พ.ศ. 1898 ได้มงคลฤกษ์ กระทำพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ เมื่อเททองหล่อเสร็จแล้ว และทำการแกะพิมพ์ออกปรากฏว่า พระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดา องค์พระสมบูรณ์สวยงามดี ส่วนพระพุทธชินราชนั้นได้หล่อถึง 3 ครั้งก็ไม่เสร็จเป็นองค์พระได้ กล่าวคือทองแล่นไม่ติดเต็มองค์ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏกจึงทรงตั้งสัตยาธิษฐานเสี่ยงเอาบุญบารมีของพระองค์เป็นที่ตั้ง ครั้งนั้นจึงร้อนถึงอาสน์พระอินทร์เจ้าจึงนฤมิตเป็นตาปะขาวลงมาช่วยทำรูปพระ คุมพิมพ์ปั้นเบ้า ด้วยอานุภาพพระอินทราธิราชเจ้าทองก็แล่นรอบคอบบริบูรณ์ทุกประการหาที่ติมิได้ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏกทรงปิติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง จึงตรัสให้หา "ตาปะขาว" ผู้นั้น แต่ตาปะขาวได้หายตัวไปแล้ว หมู่บ้านและวัดที่ตาปะขาวหายไปนั้นได้ชื่อว่า บ้านตาปะขาวหายและวัดตาปะขาวหายต่อมาจนถึงทุกวันนี้ และจากวัดตาปะขาวหายขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 800 เมตร ได้ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับการหายตัวไปของตาปะขาว เล่ากันว่ามีผู้พบเห็นว่าท้องฟ้าเปิดเป็นช่องขึ้นไป ชาวบ้านเห็นเป็นที่อัศจรรย์จึงได้สร้างศาลาขึ้นไว้ ณ พื้นดินเบื่องล่างไว้เป็นที่ระลึก เรียกว่า "ศาลาช่อฟ้า" ตราบจนทุกวันนี้
วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
พระพุทธชินราชพิมพ์ยอดธง
พระพุทธชินราชพิมพ์ยอดธง
วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
เวสสุวรรณชินราชา
เวสสุวรรณชินราชา
เวสสุวรรณ(ปรางค์ประทับนั่งอยู่เย็นเป็นสุข)
รุ่นแรกของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก สร้างจากชนวนมวลสารโลหะธาตุกายสิทธิ์และแผ่นยันต์ศักสิทธิ์ ๑๐๘ นะปถมัง ๑๔ ยันต์มหาระงับ ยันต์โสฬสมงคล ยันต์คู่ชีวิต ยันต์กระบองเพชรท้าวเวสสุวรรณ ยันต์ปัญจเทพศาสตราวุธ แผ่นยันต์พระคณาจารย์ไทย-จีน รวมกว่า 1,500แผ่น
เวสสุวรรณ จตุมหาราชิกา หรือ ท้าวกุเวร อธิบดีแห่งอสูร ภูติผี ธนบดี เทพผู้พิทักษ์สมบัติของเทวโลก
ยังความมั่นคง มั่งคั่ง ปางประทับนั่ง ถือ คธาวุธธัง (กระบองวิเศษ เป็นอาวุธ ) โลหะสำริด ลงรักปิดทอง สมัยอยุธยา ถวายการอภิบาลรักษา ที่ฐานชุกชัรัตนบัลลังก์ เบื้องพระหัตถ์ซ้าย องค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช หนึ่งเดียวในสยามประเทศ ในมงคลการ สมโภชพระพุทธชินราช ครบ 660 ปี
( พ.ศ.1900 - 2560 ) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พิษณุโลก จึงได้จัดสร้าง เทวรูป ท้าวเวสสุวรรณ จำลอง รุ่นแรก
1.ขนาดบูชา เนื้อนวโลหะ 29 องค์ โลหะทองแดง รมประกายรุเงิน399 องค์ ทองชนวน รวมดำ 999 องค์.
เนื้อทองใบพัดเรือเดินทะเล ( รมใบพลู ) เทปฐมฤกษ์ในพิธีพุทธาภิเษก 9 องค์
2. ขนาดตั้งหน้ารถ 1.5 นิ้วนวโลหะ จำนวน 29 องค์ โลหะทองชนวน จำนวน 2300 องค์
4. ขนาดคล้องคอ ทองคำ 110 องค์. เนื้อเงิน. เนื้อนวโลหะ ก้นทองคำ. เนื้อนวโลหะ. เนื้อทองใบพัดเรือเดินทะเล ( เททองครบจำนวน 999 องค์ ในพิธี) เนื้อทองแดง 10000 องค์ เนื้อทองผสม 10000 องค์ เนื้อชินตะกั่ว 6000 องค์
5 . เวสสุวรรณ พิมพ์เจ้าสัว หลังยันต์อกเลา เนื้อทองคำ เนื้อเงิน. เนื้อนวโลหะ เนื้อทองแดง. เนื้อผง แดง. ผงขาวพุทธคุณ. ผงมหาว่าน และ ผงโรยตะไบชนวนอันทรงคุณวิเศษ
6. เวสสุวรรณ พิมพ์ใบมะขาม หลังยันต์อกเลา เนื้อทองคำ เนื้อเงิน. เนื้อเงินหน้าทองคำ. เนื้อนวโลหะ เนื้อนวโลหะหน้าทองคำ เนื้อทองใบพัดเรือเดินทะเล เนื้อทองแดง จ่าทองแดง เนื้อทองแดง รมดำ ปั้มตัดขอบแดง
ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก เสาร์ 5 มหามงคล ( 30 , 31 มีค และ 1 เมษายน 2560 ) โดยพระเกจิอาจารย์ 139 รูป จาก 47 จังหวัดทั่วประเทศ
ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี ของแผ่นดินเมืองพิษณุโลก
สนใจติดต่อ 0839574216วุฒิ
Line : pitlokblogwut
เนื้อหา คลิปวีดีโอ บางคลิป ขอขอบคุณคลิปเสียง อาจารย์ยอด ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)